ใครมีที่ดินเปล่าแล้วไม่ค่อยได้ดูแล และกั้นเขตเมื่อต้องการขายที่ดินหรือแบ่งที่ดินเพื่อมรดก พวกเขาต้องทำการสำรวจที่ดินใหม่เพื่อตรวจสอบขอบเขตและขนาดของที่ดินให้ถูกต้อง ที่ดินไม่ได้หายไปไหน เพราะบางครั้งอาจเกิดปัญหาว่าที่ดินข้างเคียงมีรั้วรุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ของเราโดยไม่รู้ตัวหรือหลักหมุดเขตหาย หรือความคลาดเคลื่อนอาจทำให้ขนาดที่แท้จริงของที่ดินไม่ตรงกับโฉนดที่ดินทำให้มีปัญหาในการขายที่ดินได้
หากคุณเป็นเจ้าของโฉนดที่ดินว่างเปล่า และไม่ได้เห็นมานานแล้ว อาจมีผู้ครอบครองปรปักษ์ด้วยการอยู่อย่างเปิดเผยเป็นเวลา 10 ปีติดต่อกัน เพราะฉะนั้นการเข้าไปรังวัดที่ดินอย่างน้อย 10 ปีต่อครั้งจะช่วยให้เรามีหลักฐานในการสู้คดีว่าที่ดินนี้เป็นของเรา
รังวัดที่ดินมีกี่ประเภท
การรังวัดที่ดินสามารถยื่นคำขอได้ 3 กรณีคือ
1. การรังวัดแบ่งแยก
หากเจ้าของที่ดินต้องการแบ่งที่ดินผืนใหญ่ออกเป็นหลาย ๆ แปลง จะต้องยื่นคำขอรังวัดที่ดินใหม่ต่อกรมที่ดิน เจ้าของที่ดินจะต้องออกโฉนดที่ดินแปลงใหม่ให้แก่เจ้าของบ้านเพิ่มเติมด้วย
2. การรังวัดรวมโฉนด
หากเจ้าของที่ดินซื้อที่ดินบริเวณใกล้เคียงกับที่ดินเดิมและต้องการรวมเป็นโฉนดใหม่ เจ้าของที่ดินต้องยื่นคำร้องขอรังวัดที่ดินกับเจ้าหน้าที่กรมที่ดินใหม่ และออกโฉนดรวมใหม่ให้กับเจ้าของที่ดินเพิ่มเติม
3. การรังวัดสอบเขต
หากเจ้าของที่ดินอยากทราบว่าเนื้อที่ทั้งหมดตรงกับในโฉนดหรือไม่และสภาพที่ดินจริงกี่ไร่ กี่งาน หรือกี่ตารางวา รวมทั้งหากเกิดกรณีการสูญหายของหลักเขต เจ้าของที่ดินต้องยื่นคำร้องขอรังวัดที่ดินต่อเจ้าหน้าที่กรมที่ดินเพื่อทำการรังวัดและวางหลักปักหลักใหม่หากหลักปักฐานเดิมสูญหาย อีกทั้งต้องแก้ไขจำนวนหลักหมุดรวมทั้งแนวเขตที่ดินในโฉนดใหม่ให้ถูกต้อง
สิ่งที่เจ้าของที่ดินควรรู้ก่อนขอรังวัดที่ดิน
จากเว็บไซต์กรมที่ดินมีรายละเอียดการขอรังวัดที่ดินและสิ่งที่เจ้าของที่ดินควรทราบดังนี้
- ที่ดินครอบครองอยู่มีหลักฐานอะไร ยื่นหลักฐานประกอบการยื่นคำขอรังวัดที่ดิน
- ที่ดินตั้งอยู่ในหมู่บ้าน ตำบล ตำบล อำเภออะไร
- ใครเป็นเจ้าของที่ดินข้างเคียงติดที่สาธารณประโยชน์หรือไม่
- สภาพที่ดินเป็นอย่างไร เช่น ที่นา ที่สวน ไร่ ที่อยู่อาศัย
ยื่นคำขอรังวัดที่ดินได้ที่ไหน
ยื่น ณ สำนักงานที่ดินจังหวัด สาขา สำนักงานที่ดินจังหวัดหรือสำนักงานที่ดินอำเภอที่ที่ดินนั้นตั้งอยู่แบ่งเป็น
- โฉนดที่ดินติดต่อสำนักงานที่ดินจังหวัดหรือสาขาของสำนักงานที่ดินจังหวัดที่ที่ดินนั้นตั้งอยู่
- ติดต่อสำนักงานที่ดินที่ที่ดินนั้นตั้งอยู่ เว้นแต่ได้มีการยกเลิกอำนาจจากนายอำเภอให้ติดต่อสำนักงานที่ดินจังหวัด หรือสำนักงานที่ดินจังหวัดสาขาที่ที่ดินนั้นตั้งอยู่
ขั้นตอนการขอรังวัดที่ดิน
- ยื่นคำขอรังวัดที่ดิน ยื่น ณ สำนักงานที่ดินจังหวัด สาขาหรือสำนักงานที่ดินอำเภอที่ที่ดินนั้นตั้งอยู่ ให้ตรวจสอบที่โฉนดที่ดินว่าจะต้องไปติดต่อที่ไหน ต้องเตรียมข้อมูลดังต่อไปนี้ก่อนยื่นคำขอรังวัดที่ดิน
- หลักฐานการถือครองที่ดินพบเป็นหนังสือรับรองการทำประโยชน์ เช่น โฉนดที่ดิน น.ส.3 น.ส.3 ก เป็นต้น
- ที่ตั้งที่ดินให้ติดต่อกับสำนักงานที่ดินได้ถูกต้อง
- ตรวจสอบว่าที่ดินอยู่ติดกับที่ดินสาธารณประโยชน์หรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่ดินโดยรอบ เนื่องจากเจ้าของที่ดินโดยรอบจะต้องมารับทราบและตกลงแนวเขตที่ดินที่รังวัดใหม่ หากเจ้าของที่ดินข้างเคียงคัดค้านแนวเขตที่ดินที่รังวัดใหม่หรือตกลงกันไม่ได้ก็สามารถฟ้องคดีได้ภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้ง หากไม่ฟ้องภายในกำหนดให้ถือว่าผู้ขอไม่ประสงค์จะรังวัดแนวเขตโฉนดที่ดินต่อไป ระยะเวลาการนับ 90 วันต้องเริ่มนับจากวันที่ได้รับแจ้งล่าสุด
- สภาพที่ดินของเราเป็นที่นาหรือที่อยู่อาศัยเป็นต้น
- หลักฐานประกอบการขอรังวัด แบ่ง หรือสอบแนวเขตโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์
- บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน ทะเบียนสมรส หลักฐานการเปลี่ยนชื่อ (ถ้ามี)
- โฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์
- หลักฐานประกอบคำขอรังวัด ได้แก่ โฉนดที่ดิน
- บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน ทะเบียนสมรส หลักฐานการเปลี่ยนชื่อนามสกุล (ถ้ามี)
โฉนดที่ดินที่จะขอรวมต้องมีลักษณะดังนี้
- ต้องเป็นหนังสือกรรมสิทธิ์ประเภทเดียวกัน ยกเว้น โฉนดแผนที่และโฉนดที่ดินรวมกันได้
- ชื่อผู้ครอบครองที่ดินต้องเหมือนกันทุกโฉนดที่ดินและทุกคนต้องยังมีชีวิตอยู่
- ต้องเป็นที่ดินที่อยู่ติดกับที่ดินผืนเดียวกันในจังหวัดและสำนักงานที่ดินเดียวกัน
ขั้นตอนการรังวัด แบ่งแยก รวม ตรวจสอบเขตที่ดิน
- รับบัตรคิวจากประชาสัมพันธ์
- ชำระค่าธรรมเนียมสำหรับคำขอตรวจสอบ
- ส่งช่างรังวัดเพื่อนัดหมายวันรังวัด กำหนดช่างสำรวจ กำหนดเงินฝากของผู้สำรวจ
- ค้นหาชื่อเจ้าของที่ดินข้างเคียง พิมพ์จดหมายแจ้งเตือนด้านข้าง
- รับหนังสือแจ้ง วางเงินประกันรังวัด และรับแนวเขตที่ดิน
- ช่างรังวัดออกไปรังวัดตามวันที่กำหนด
- คำนวณพื้นที่และเขียนแผนที่บนโฉนดที่ดิน
- ส่งเรื่องรังวัดคืนสำนักทะเบียน
- สอบสวนจดทะเบียนแบ่งแยก
- ตรวจอายัด
- ชำระค่าจดทะเบียนและโฉนดที่ดิน
- แก้ไขรายทะเบียนและแยกการลงทะเบียน
- สร้างโฉนดที่ดินแปลงแบ่งแยก
- เสนอเจ้าพนักงานที่ดินลงนามและประทับตราในเอกสาร
- แจกโฉนดที่ดินแปลงแบ่งแยก
ค่าใช้จ่ายในการรังวัดที่ดิน
ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการรังวัดที่ดินที่ผู้ขออนุญาตต้องชำระตามกฎหมาย มีดังนี้
1. ค่าธรรมเนียมรังวัด
- เกี่ยวกับโฉนด แปลง/วัน/ละ 40 บาท
- เกี่ยวกับหนังสือรับรองการทำประโยชน์รายแปลง/วัน/ฉบับละ 30 บาท
- ค่าหลักเขตที่ดิน หลักละ 15 บาท (ตามการใช้งานจริง)
- ค่าใช้จ่ายในการสำรวจมีดังนี้
3.1 ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ค่าส่งหมายข้างเคียงทางไปรษณีย์ลงทะเบียน 200 บาท
3.2 ค่าจ้างเจ้าหน้าที่ปกครองท้องที่ไม่เกินอัตราที่กำหนดในกฎกระทรวง
3.3 ค่าพาหนะของเจ้าหน้าที่และช่างรังวัด ไม่เกิน 1,600 บาทต่อวัน
3.4 ค่าจ้างช่างรังวัด คน/วัน 420 บาท (ตามเขตจังหวัดที่กระทรวงการคลังกำหนด)
การกำหนดวันรังวัดตามข้อ 3.3 และ 3.4 กำหนดตามจำนวนพื้นที่ดังนี้
2.การรังวัดเกี่ยวกับโฉนดที่ดิน
- พื้นที่ไม่เกิน 5 ไร่ ชั่วโมงทำงาน 1 วัน ค่าใช้จ่ายเรียกไม่ได้ 3,480 บาท
- พื้นที่ไม่เกิน 15 ไร่ เวลาทำงาน 2 วัน เรียกค่าใช้จ่ายได้ไม่เกิน 6,760 บาท
- พื้นที่ไม่เกิน 30 ไร่ ชั่วโมงทำงาน 3 วัน เรียกค่าใช้จ่ายได้ไม่เกิน 10,040 บาท
- พื้นที่ไม่เกิน 50 ไร่ ชั่วโมงทำงาน 4 วัน ค่าใช้จ่ายเรียกได้ไม่เกิน 13,320 บาท
3.แบบสำรวจเกี่ยวกับการรังวัดและใบรับรองการใช้ประโยชน์
พื้นที่ไม่เกิน 20 ไร่ ชั่วโมงทำงาน 1 วัน ค่าใช้จ่ายเรียกได้ไม่เกิน 2,640 บาท
พื้นที่ไม่เกิน 50 ไร่ ชั่วโมงทำงาน 2 วัน ค่าใช้จ่ายเรียกได้ไม่เกิน 5,080 บาท